เป็นเครื่องมือที่ไม่ต้องใส่ยางรัดฟัน ทำให้การเคลื่อนฟันทำได้เร็วขึ้น และยังเป็นระบบที่ช่วยลดระยะเวลาในการรักษา ทำให้การรักษาเสร็จเร็วขึ้นดี ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องมือจัดฟันแบบ Damon ให้มีความหลากหลายของเครื่องมือยิ่งขึ้นมาว่าจะเป็นขนาด รูปร่าง หรือความสวยงามของเครื่องมือ ได้แก่
- Damon Q ซึ่งมีขนาดของเครื่องมือที่เล็กกว่าเครื่องมือ Damon แบบเดิม
- Damon Clear เป็นชนิดที่ช่วยเรื่องความสวยงามของเครื่องมือ ทำให้มองเห็นไม่ชัด หรือมองไม่เห็นเครื่องมือขณะจัดฟันอยู่
ประโยชน์ของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon
- การรักษาที่เร็วขึ้น
- ไม่ต้องถอนฟันโดยไม่จำเป็น
- สบายกว่า โดยปราศจากแรงดึงแน่นในปาก
- ไม่ต้องพบทันตแพทย์บ่อย
- มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันมีแรงเสียดทานของเครื่องมือน้อย
ประโยชน์ของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon Q
- การรักษาที่เร็วขึ้น
- สบายกว่า โดยปราศจากแรงดึงแน่นในปาก
- ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย
- มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันอย่างมาก
- ลดการระคายเคืองของเครื่องมือและลดการเสียดสีของเครื่องมือกับภายในช่องปากเนื่องจากเครื่องมือมีขนาดเล็กกว่าเครื่องมือ Damon ปกติ
ประโยชน์ของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon Clear
- การรักษาที่เร็วขึ้น
- สบายกว่า โดยปราศจากแรงดึงแน่นในปาก
- ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย
- มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันอย่างมาก
- ทำให้มองไม่เห็นเครื่องมือขณะจัดฟันอยู่ ทำให้ดูสวยงาม
- เครื่องมือมีสีใส
ข้อเสียของการจัดฟันด้วยเครื่องมือแบบ Damon
- ควรดูแลเครื่องมือตามคำแนะนำ และพบทันตแพทย์ตามกำหนด เพื่อผลสำเร็จของการรักษา ตามกำหนด และหากเกิดความผิดปกติของเครื่องมือภายในช่องปาก ให้พบหรือปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อรักษาอาการผิดปกติเหล่านั้น
- หากมีอุปกรณ์หลุดหรือสูญหายอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในการเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวใหม่ให้แก่คนไข้
- เนื่องจากการออกแบบเครื่องมือที่ทำให้มาพบทันตแพทย์น้อยครั้งลง จึงต้องพยายามดูแลเครื่องมือให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อให้ประสิทธิ ภาพของเครื่องมือในการทำให้ฟันเคลื่อนตัวตามต้องการ รวมถึงทำความสะอาดได้เหมาะสม
- ต้องการความร่วมมือจากผู้ที่มาจัดฟันมากตั้งแต่การทำความสะอาดเนื่องจากความซับซ้อนของเครื่องมือที่เป็นบานปิดเปิด ทำให้ไวต่อการเกิดหินปูนหากคนไข้ไม่รักษาความสะอาดให้ดี ซึ่งทำให้การเปิดเข้าออกของเครื่องมือทำได้ยากมากและนอกจากนี้ระบบนี้มีการใช้ยาง elastic ค่อนข้างบ่อย เพื่อลดการถอนฟัน ผู้ป่วยต้องเปลี่ยนยางทุกวันและใส่ยางบ่อยๆ หากไม่ใส่จะไม่ได้ผลการักษาจัดฟันที่ดีจึงต้องการความร่วมมือจากผู้ป่วยค่อนข้างมาก
ระยะเวลาในการรักษา
โดยปกติแล้ว จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีขึ้นไป ในการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพฟัน และโครงสร้างฟันของแต่ละคน ดังนั้นระยะเวลาจึงอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้กำหนดและดูแลเรื่องนี้